ส่องความแตกต่าง คอลลาเจนเม็ด คอลลาเจนผง แบบไหนดีกว่ากัน – Glory | “อาหารผิว” เพื่อสุขภาพและความงาม

ส่องความแตกต่าง คอลลาเจนเม็ด คอลลาเจนผง แบบไหนดีกว่ากัน

คอลลาเจน ถือเป็นสารอาหารยอดนิยม สำหรับวงการความสวยความงาม ที่ถูกนำมาจำหน่ายอย่างแพร่หลาย ซึ่งรูปแบบของคอลลาเจนแต่ละยี่ห้อจะมีความแตกต่างกันออกไป ทั้ง คอลลาเจนเม็ด และคอลลาเจนผง วันนี้ Glory จะมาบอกถึงความแตกต่างของคอลลาเจนทั้งสองชนิดให้ทุกคนได้เข้าใจกันว่ามีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร? พร้อมทั้งวิธีเลือกทานว่าแบบไหนจึงจะเหมาะสมมากที่สุด ตามไปดูกันเลย

 

ไขให้กระจ่าง กับความแตกต่างของ คอลลาเจนเม็ด และคอลลาเจนผง

คอลลาเจนเม็ด และคอลลาเจนผง ต่างก็เป็นคอลลาเจนที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก แต่หลายคนก็อาจจะยังไม่รู้ถึงความแตกต่างของคอลลาเจนทั้งสองชนิดนี้ ว่ามีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง และต้องทานแบบไหนจะเห็นผลดีมากกว่ากัน Glory จึงได้ทำการรวบรวมข้อมูลถึงความแตกต่างของคอลลาเจนเม็ด และคอลลาเจนผง เพื่อให้คุณเข้าใจถึงคอลลาเจนเม็ด และคอลลาเจนผงมากขึ้น

 

คอลลาเจนเม็ด

คอลลาเจนเม็ด เป็นรูปแบบของคอลลาเจนที่ถูกสกัด และนำมาทำให้อยู่ในรูปของเม็ดยา โดยข้อดี-ข้อเสีย ของคอลลาเจนรูปแบบเม็ดมีดังนี้


ข้อดี

  • พกพาสะดวก 

คอลลาเจนรูปแบบเม็ด สามารถพกพาไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวก เนื่องจากบรรจุอยู่ในบรรจุภัณฑ์ ที่เป็นสัดส่วนมากกว่าแบบผง ทำให้สามารถหลีกเลี่ยงปัญหาการหกเลอะเทอะได้


  • ง่ายต่อการรับประทาน

คอลลาเจนรูปแบบเม็ด มีความยุ่งยากในการรับประทานน้อยกว่ารูปแบบผง เนื่องจากคอลลาเจนแบบเม็ด สามารถทานแล้วดื่มน้ำตามได้เลย ไม่ต้องชงกับเครื่องดื่มเหมือนคอลลาเจนผง


  • เป็นมิตรต่อผู้ทานทุกเพศทุกวัย

คอลลาเจนเม็ด ส่วนมากจะไม่มีกลิ่น หรือรสชาติ สามารถทานได้ง่ายกว่าคอลลาเจนแบบผงที่อาจมีกลิ่นคาว ทำให้คอลลาเจนแบบเม็ดตอบโจทย์สำหรับทุกคน


  • ไร้การปรุงแต่ง 

คอลลาเจนแบบเม็ด แทบจะไม่มีการปรุงแต่งรสชาติให้ทานง่ายเหมือนคอลลาเจนแบบผง เนื่องจากถูกสกัดมาให้ไม่มีกลิ่นคาว ทำให้หมดความกังวลในเรื่องของกลิ่น น้ำตาล หรือสารให้ความหวาน


  • เก็บรักษาได้ยาวนาน 

คอลลาเจนแบบเม็ด สามารถป้องกันความชื้นได้ดีกว่าคอลลาเจนแบบผง ทำให้อายุการใช้งานของคอลลาเจนแบบเม็ดสามารถอยู่ได้นานมากกว่า และง่ายต่อการเก็บรักษา


  • การดูดซึม 

การดูดซึมนำไปใช้งานของคอลลาเจนแบบเม็ด อาจไม่ได้รวดเร็วมากนัก แต่คอลลาเจน กลอรี่  Collagen Di-Peptide ที่สกัดคอลลาเจนมาจากเกล็ดปลาทิลาเพีย ทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมไปใช้งานได้ดีกว่าคอลลาเจนที่สกัดมาจากหนังปลาทั่วไปถึง 166 เท่า 


  • มากกว่าแค่คอลลาเจน 

คอลลาเจนแบบเม็ด ถูกผสมสารอาหารอื่น ๆ ที่จำเป็นต่อผิวลงไปด้วย เพื่อให้มีประสิทธิภาพในการทำงานที่ดียิ่งขึ้น อย่าง Collagen Di-Peptide คอลลาเจน กลอรี่ ที่รวมทั้งคอลลาเจนคุณภาพดีกับอีลาสติน และไฮยารูลอนิก-เอซิด เข้าไว้ด้วยกัน โดยในหนึ่งเม็ดจะช่วยให้โครงสร้างของผิวมีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้น 


ข้อเสีย

  • ขนาดของเม็ด 

บางคนอาจจะไม่สะดวกใจในการทานคอลลาเจนแบบเม็ด เนื่องจากรับประทานยาก อาจทำให้เกิดอาการพะอืดพะอมได้


  • ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ย่อยยาก

คอลลาเจนแบบเม็ดอาจไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ย่อยอาหารยาก หรือร่างกายดูดซึมสารอาหารได้ไม่ดี เนื่องจากคอลลาเจนรูปแบบเม็ดต้องใช้เวลาประมาณ 30 นาที เพื่อให้ร่างกายดูดซึมไปใช้งาน 

 

คอลลาเจนแบบผง

คอลลาเจนแบบผง คือ คอลลาเจนที่ถูกสกัดให้อยู่ในรูปแบบผง เพื่อนำไปผสมกับน้ำ แล้วชงให้เป็นเนื้อเดียวกันก่อนนำมารับประทาน โดยข้อดี-ข้อเสีย ของคอลลาเจนแบบผงมีดังนี้


ข้อดี

  • ดูดซึมง่าย 

คอลลาเจนแบบผง ถูกสกัดให้อยู่ในรูปแบบที่สามารถผสมกับน้ำได้ จึงทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมไปใช้งานได้รวดเร็วกว่ารูปแบบเม็ด


กำหนดปริมาณได้ 

คอลลาเจนแบบผง สามารถกำหนดปริมาณที่ต้องการทานในแต่ละครั้งได้ เนื่องจากมาพร้อมถ้วยตวง ทำให้สามารถคำนวณปริมาณที่ทานในแต่ละครั้งได้


  • สามารถประยุกต์ได้ 

คอลลาเจนแบบผงสามารถนำไปผสมกับอาหาร หรือเครื่องดื่มที่คุณชื่นชอบได้ และช่วยสร้างความหลากหลายให้กับการทานคอลลาเจนมากขึ้น


ข้อเสีย

  • ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องเลี่ยงน้ำตาล 

เนื่องจากคอลลาเจนแบบผงบางยี่ห้อง อาจมีการปรุงแต่งรสชาติด้วยน้ำตาล หรือสารให้ความหวาน เพื่อให้มีรสชาติที่ดียิ่งขึ้น ดังนั้นผู้ป่วย เช่น โรคอ้วน เบาหวาน หรือความดันควรหลีกเลี่ยง


  • อายุการใช้งาน 

คอลลาเจนแบบผง ไม่สามารถทนต่อความชื้นได้นาน ทำให้อายุการใช้งานไม่นานเท่ารูปแบบเม็ด 


  • ยุ่งยากมากกว่า

คอลลาเจนรูปแบบผง ไม่สามารถทานได้ทุกที่ทุกเวลา เนื่องจากต้องอาศัยน้ำในการชง ทำให้เกิดความยุ่งยากในการรับประทานมากกว่ารูปแบบเม็ด


 

คอลลาเจนแบบไหนที่ใช่สำหรับคุณ

ทั้งคอลลาเจนแบบเม็ด และคอลลาเจนแบบผง สามารถให้คุณประโยชน์แก่ผิวได้เหมือนกัน ดังนั้นคอลลาเจนที่เหมาะกับคุณจะขึ้นอยู่กับความต้องการ และความชอบของแต่ละบุคคล 


Glory จึงอยากแนะนำให้ทานเป็นคอลลาเจนแบบเม็ดมากกว่า ที่สำคัญคอลลาเจนแบบเม็ดจาก Glory สามารถแกะเม็ดแคปซูล แล้วทานร่วมกับเครื่องดื่ม หรืออาหารได้ตามความสะดวกของแต่ละคน โดยคอลลาเจน กลอรี่ ไม่มีสี และไม่มีกลิ่น ทำให้ง่ายต่อการรับประทานมากขึ้น


เนื่องจากข้อดีที่มีมากกว่ารูปแบบผง และเป็น Collagen Di-Peptide ซึ่งคอลลาเจน กลอรี่ คุณภาพดีที่ประกอบไปด้วยคอลลาเจนชนิดที่ 1 และคอลลาเจนชนิดที่ 3 จะมีส่วนช่วยในการทำงานของระบบผิวหนังให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น 


และคอลลาเจน กลอรี่ ยังเป็นคอลลาเจนรูปแบบเดียวกับผิวของเรา ทำให้สามรถดูดซึมไปใช้งานได้อย่างรวดเร็ว หากได้รับประทานควบคู่ไปกับ Tomato Vit C จาก Glory สารสกัดจากมะเขือเทศสวิสเซอร์แลนด์ ที่จะทำงานควบคู่ไปกับคอลลาเจน ช่วยให้ผิวของคุณใส และแข็งแรงมากยิ่งขึ้น 


หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้ใครหลาย ๆ คน เข้าใจถึงความแตกต่างระหว่าง คอลลาเจนเม็ด กับ คอลลาเจนผง มากยิ่งขึ้น เพื่อคลายข้อสงสัยว่าคุณควรตัดสินใจซื้อคอลลาเจนแบบไหนมากกว่ากัน ถ้าหากสนใจคอลลาเจนแบบเม็ดคุณภาพดีที่คุณไว้ใจได้ สามารถติดต่อเพิ่มเติมได้ที่ Line: @GloryofficialTH

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

Glory จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ คอลลาเจนเปปไทด์ ทั้ง 5 ชนิดว่า แต่ละชนิดมีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างไรบ้าง ไปดูกัน

วันนี้ Glory จะพามาส่องสาเหตุที่ทำให้ร่างกายของเราผลิตคอลลาเจนลดลง พร้อมรีวิว คอลลาเจน กลอรี่ คอลลาเจนคู่ผิวสวยที่คุณไม่ควรพลาด

Glory อยากจะให้เพื่อน ๆ ทุกคนเสริมความมั่นใจด้วย Glory Collagen พร้อมเผยผิวสวยได้ ไม่ต้องกลัวสายตาคนอื่น ทำได้อย่างไรไปดูกัน

วันนี้ Glory เรามีเคล็ด (ไม่) ลับเกี่ยวกับ การกินคอลลาเจน ให้เห็นผลเผยผิวกระจ่างใส สวยภายใน 7 วันมาฝากเพื่อน ๆ กัน

วันนี้ Glory เราจะมาแนะนำ คอลลาเจนผิวขาวใส ที่ช่วยบำรุงผิวได้อย่างล้ำลึกจากภายในสู่ภายนอกมาฝากกัน

Glory จะมาแนะนำวิธีรักษารอยสิวด้วย คอลลาเจนลดรอยสิว ให้รอยจางไวไม่เป็นหลุม ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลย

วันนี้ Glory จะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับ คอลลาเจนเปปไทด์ พร้อมกับมาบอกว่า คอลลาเจนเปปไท์ ประโยชน์ สุดพิเศษ ที่จะช่วยเผยผิวคุณให้สวยโดดเด่นเหนือกว่าใครมีอะไรบ้าง

Glory จะมาแนะนำวิธีการทาน Vit C อย่างไรให้ได้ประสิทธิภาพ และเห็นผลจริง ถ้าพร้อมแล้วไปดูกัน

กลับหน้าแรก