คอลลาเจน ตัวไหนดี ทานยังไงให้ผิวดีจากภายใน

คอลลาเจน เป็นอาหารเสริมยอดฮิตที่สาว ๆ เลือกรับประทาน โดยเฉพาะคนที่เริ่มมีปัญหาผิวพรรณไม่สดใส ผิวหมองคล้ำ หรือเริ่มมีริ้วรอยก่อนวัย หากคุณกำลังเผชิญกับปัญหาเหล่านี้แต่ยังไม่ทราบดีว่าคอลลาเจนตัวไหนดี หรือคอลลาเจนแบบไหนที่ทานแล้วเห็นผลจริง และช่วยฟื้นฟูสภาพผิวได้อย่างตรงจุด

บทความในวันนี้ Glory มีเคล็ดลับมาฝากกันว่า คอลลาเจน ตัวไหนดี และควรเลือกทานอย่างไร ให้ได้ผิวที่สุขภาพดีจากภายในสู่ภายนอก ถ้าพร้อมแล้วเราไปดูกันเลย

คอลลาเจน ตัวไหนดี จำเป็นต้องทานไหม?

คอลลาเจน (Collagen) คือ โปรตีนชนิดหนึ่งที่ร่างกายสามารถสร้างขึ้นได้เองตามธรรมชาติ ทั้งยังเป็นองค์ประกอบสำคัญของกระดูก ข้อต่อ กล้ามเนื้อ และเส้นเอ็น ซึ่งสามารถพบได้มากสุดที่บริเวณใต้ผิวหนัง มีหน้าที่ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่น เติมความชุ่มชื้น และช่วยสร้างความแข็งแรงให้เนื้อเยื่อเกี่ยวพันกับอวัยวะต่าง ๆ 

แต่หากสาว ๆ ที่อายุเริ่มเข้าสู่ช่วง 25 ปีขึ้นไป จะเริ่มเห็นความแตกต่างได้อย่างชัดเจน เพราะจะพบเจอกับสารพัดปัญหาผิว ไม่ว่าจะเป็นผิวแห้ง ผิวไม่เต่งตึงขาดความกระชับ และเกิดริ้วรอยเพิ่มขึ้นกว่าเดิม หรือเริ่มรู้สึกว่ามีอาการปวดเข่า และปวดข้อได้ง่ายขึ้น

ซึ่งโดยปกติแล้วร่างกายสร้างคอลลาเจนลดลงปีละ 1-2% มาคู่กับปัจจัย หรือพฤติกรรมต่าง ๆ เช่น การสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ พักผ่อนน้อย มีภาวะเครียด และผิวโดนแสง UV ทำร้ายอยู่เป็นประจำ จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมจึงควรทานคอลลาเจนเสริม เนื่องจากคอลลาเจนเสริมสามารถเติมเต็มให้ร่างกายได้ถึง 5,000-7,000 มิลลิกรัมต่อวัน เพื่อดูแลผิวพรรณ รวมถึงช่วยบำรุงกระดูก และข้อต่อได้เป็นอย่างดี

คอลลาเจน ตัวไหนดี และมีความแตกต่างกันอย่างไร?

ถึงแม้ว่าคอลลาเจนตามธรรมชาติในร่างกายของคุณ จะมีมากกว่า 16 ชนิด แต่ก็มีโอกาสผลิตได้น้อยลง และเสื่อมสลายไปตามวัย อีกทั้งการรับประทานอาหารผิว อย่าง คอลลาเจน ก็อาจได้รับปริมาณคอลลาเจนที่ไม่เพียงพอต่อร่างกาย 

เนื่องจากคอลลาเจนที่มีโมเลกุลขนาดใหญ่ ดูดซึมได้น้อย ทำให้เจ้าของแบรนด์คอลลาเจนในท้องตลาด คิดค้นคอลลาเจนในรูปแบบของอาหารเสริมขึ้นมา ซึ่งมักจะแบ่งออกเป็นคอลลาเจน 3 ประเภทหลัก ๆ ที่มีโครงสร้าง และความสามารถในการดูดซึมที่ต่างกันออกไป ดังนี้

• คอลลาเจนเปปไทด์ (Collagen Peptide)

คอลลาเจนเปปไทด์ เป็นคอลลาเจนที่ผ่านกระบวนการทำให้สายคอลลาเจนสั้นลง เพื่อให้ร่างกายสามารถดูดซึมได้ดีกว่าคอลลาเจนจากธรรมชาติ แต่คอลลาเจนชนิดนี้ก็ยังมีสายพันธะเปปไทด์ที่ยาว และมีโมเลกุลขนาดใหญ่ถึง 6,000 ดาลตัน ทำให้ร่างกายดูดซึมได้ช้า

• คอลลาเจนไตรเปปไทด์ (Collagen Tripeptide)

คอลลาเจนเปปไทด์ เป็นคอลลาเจนที่ประกอบไปด้วยกรดอะมิโน ที่เรียงเชื่อมกัน 3 ตัว มีโมเลกุลเฉลี่ย 300 ดาลตัน เป็นโมเลกุลที่มีขนาดเล็กลง ร่างกายจึงสามารถดูดซึมคอลลาเจนชนิดนี้ได้ดีขึ้นในระดับปานกลาง

• คอลลาเจนไดเปปไทด์ (Collagen Dipeptide)

คอลลาเจนไดเปปไทด์ มีกรดอะมิโนที่เป็นโครงสร้างหลัก และเรียงต่อกันเพียง 2 ตัวเท่านั้น จึงทำให้โมเลกุลมีขนาดเฉลี่ยเพียง 200 ดาลตัน เรียกได้ว่าเป็นโมเลกุลเล็กที่สุด เมื่อเทียบกับคอลลาเจนเปปไทด์ และคอลลาเจนไตรเปปไทด์ นอกจากนี้ร่างกายยังสามารถดูดซึมได้ดีกว่า และนำไปใช้ได้ทันทีหลังรับประทาน 

เนื่องจากไม่จำเป็นต้องผ่านการย่อยในกระเพาะอาหาร แต่จะถูกลำเลียง และดูดซึมที่ลำไส้เล็กเข้าสู่กระแสเลือด พุ่งตรงสู่เซลล์เป้าหมาย อย่าง เซลล์ผิวหนัง เซลล์กระดูกอ่อน และเซลล์กระดูก ทำให้คอลลาเจนชนิดนี้มีประสิทธิภาพสูงในการดูแลผิว และข้อเข่า

นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยพบว่าคอลลาเจน อย่าง คอลลาเจนไดเปปไทด์ มีคุณสมบัติช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น และความยืดหยุ่นให้ผิวหน้าได้ดี ทั้งยังมีงานวิจัยรับรองสำหรับกลุ่มอาสาสมัคร ที่ทดลองทานคอลลาเจนไดเปปไทด์ และพบว่าคอลลาเจนชนิดนี้มีประสิทธิภาพในการฟื้นฟูได้ดีกว่าคอลลาเจนชนิดอื่นอย่างชัดเจน ทำให้คอลลาเจนไดเปปไทด์เป็นคอลลาเจนที่ร่างกายสามารถดูดซึมได้ดีที่สุด

เลือกคอลลาเจนอย่างไร ให้ได้ผลลัพธ์ดีที่สุด

• คอลลาเจนที่ร่างกายดูดซึมง่าย

การเลือกคอลลาเจน ที่สามารถดูดซึมได้ง่าย และนำไปใช้ได้ดี อย่าง คอลลาเจน กลอรี่ คอลลาเจนไดเปปไทด์ 100% ที่มีอนุภาคเล็กที่สุด และไม่มีส่วนผสมของคอลลาเจนชนิดอื่น ทั้งยังเป็นคอลลาเจนที่มีความเข้มข้นสูง เพื่อการดูดซึมที่ดี และได้ประสิทธิภาพต่อร่างกาย

• คอลลาเจนที่มีวิตามินซีผสมด้วย

นอกจากจะช่วยเสริมการสังเคราะห์ของคอลลาเจน และวิตามินซี ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ดียิ่งขึ้น

• คอลลาเจนที่มีสารสกัดสำคัญอื่น ๆ 

การเลือกทานคอลลาเจน ที่มีส่วนประกอบสำคัญของสารสกัดอื่น ๆ เพิ่มเติม จะช่วยเพิ่มประโยชน์ในการบำรุงผิว และข้อต่อได้เป็นอย่างดี เช่น คอลลาเจนที่ช่วยเพิ่มไฮยาลูรอน ช่วยเติมความชุ่มชื้น เพิ่มความยืดหยุ่น หรือริ้วรอยดูตื้นขึ้น และผิวใสเปล่งประกาย เป็นต้น

• คอลลาเจนที่มีรสชาติอร่อย หรือไม่มีรสชาติ

รสชาติของคอลลาเจนที่ดีต้องอร่อย ไม่มีกลิ่นคาว รับประทานง่าย และที่สำคัญคอลลาเจนควรมีลักษณะใส ไม่มีสี สามารถชง และละลายน้ำได้ดีไม่จับตัวเป็นก้อน

• คอลลาเจนที่ไม่มีน้ำตาล และไขมัน

ควรเลือกคอลลาเจนที่ปราศจากน้ำตาล และไขมัน เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบต่อสุขภาพที่อาจเกิดขึ้น เมื่อรับประทานในระยะยาว

โดย Glory Collagen Di-peptide คอลลาเจนเพียว ที่สกัดมาจากเกล็ดปลาทิลาเพีย เป็นปลาที่อุดมไปด้วยโปรตีนคุณภาพสูง นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น ที่สำคัญยังเป็นคอลลาเจนที่ผ่านกระบวนการไฮโดรไลซ์ ทำให้ร่างกายดูดซึมได้ดีกว่าคอลลาเจนทั่วไปถึง 166 เท่า ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ความยืดหยุ่นของผิว และช่วยฟื้นฟูสภาพผิวให้กลับมามีสุขภาพดี ผิวกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ 

นอกจากนี้ คอลลาเจน กลอรี่ ไม่มีส่วนผสมของสารเคมีทำให้คุณสามารถรับประทานได้อย่างต่อเนื่อง โดยไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพในภายหลัง

สุดท้ายนี้สาว ๆ หลายคนคงจะเลือกได้แล้วว่า คอลลาเจน ตัวไหนดี และคอลลาเจนประเภทไหนที่ทานแล้วเห็นผลจริง รวมไปถึงวิธีการเลือกทานคอลลาเจนที่ถูกต้อง ไม่ส่งผลเสียต่อร่างกายในภายหลัง สำหรับใครที่ต้องการสอบถาม หรือปรึกษาปัญหาผิวเพิ่มเติม สามารถติดต่อเราได้ที่

Line: @GloryofficialTH

Shopee: Glory Official TH

Lazada: Glory